**

คู่แค้นกลับชาติ



   ก่อนสิ้นลมหายใจเมื่อชาติที่แล้วคงได้กล่าวคำอาฆาตพยาบาทกันไว้มาชาตินี้ถึงได้มาประหัตประหารกันทั้ง ๆ ที่คู่ต่างสภาพ ต่างศักดิ์ศรีแต่ต้องมาพบกัยเพราะ..แรงอาฆาต ทั้ง ๆ ที่แสนเกลียดและสุดเซ็งแต่จำต้องจำยอม เพราะสภาพของลูกศิษย์วัดนั้น ต้องทำทุกอย่างที่เป็นภารกิจภายในของหลวงตา ที่ชอบเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า ๒๐ กว่าตัวขึ้นไป เปี้ยก หรือเจ้าเปี้ยกที่พ่อแม่เอามาฝากหลวงตาเพราะที่บ้านยากจนและมีลูกหลายคน ได้ให้ปรนนิบัติรับใช้ถวายหลวงตา เจ้าเปี้ยกสุดจะอิดหนาระอากับหมาแมวพวกนี้ ถ้าหลวงตาอยู่ท่านจะเป็นผู้คลุกข้าวปลาให้แมว และหมาหนังกลับ คือหมาขี้เรื้อน

   แต่ถ้าวันไหนหลวงตาไม่อยู่เป็นที่แน่นอนละ ทั้งหมาทั้งแมวจะต้องอดข้าวกันเป็นแถว เจ้าเปี้ยกยังเป็นเด็กแค่ ๑๑-๑๒ ขวบ จะไม่ยอมคลุกข้าวให้ มันคิดว่านี่เป็นการลงโทษที่พวกนี้ทำสกปรกโสโครก ทำให้ต้องมีงานเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน โดยเฉพาะขี้หมานั้น เจ้าเปี้ยกจะต้องล้างที่ชานกุฏิหลวงตาทุกวัน วันไหนโชคไม่ดีก็ต้องซักจีวร สบงด้วย โดยไม่มีสิทธิ์คัดค้าน มันล้างไป ซักไป แล้วด่าไป เพราะกลิ่นนั้นเหม็นชวนเวียนหัวแทบอาเจียน

   ทั้งหมาทั้งแมวเหมือนจะรู้ทางจิตได้ดีว่า วันไหนที่หลวงตาไม่อยู่อย่างน้อยก็มื้อหนึ่งละที่ต้องอด เจ้าเปี้ยกลูกศิษย์หลวงตาจะแกล้งได้ไม่บ่อยนัก เพราะใจจริงของเจ้าเปี้ยกแล้วมันรักเมตตาสัตว์เหมือนกัน บางที่ให้ข้าวหมาแมวก็นึกเสียว่า ถ้าพวกมันหากินเองได้ คงไม่มารบกวนขอเขากินอย่างนี้หรอก บางครั้งเจ้าเปี้ยกหายไปวันสองวันยังคิดถึงหมาแมว นี่คือความดีมีจิตใจเมตตาของเจ้าเปี้ยก

   ไอ้นิน เป็นหนึ่งในจำนวนหมาที่เจ้าเปี้ยกต้องคอยดูแล และไอ้นินก็เป็นจ่าฝูงของบรรดาหมาวัน เจ้าเปี้ยกเห็นมันมาตั่งแต่วันแรกที่หลวงตาอุ้มมันมาจากข้างถนน เพราะท่านกลัวว่าจะถูกรถทับตาย จึงสงเคราะห์มันมาเลี้ยง และชื่อนี้หลวงตาเป็นผู้ตั้งให้ สีของไอ้นินดำสนิท อ้วนน่ารักมาก ตอนที่มันมายังเป็นลูกมาอยู่เลย อาหารวัดข้าวก้นบาตรมีโปรตีนมาก ไอ้นินถึงได้โตวันโตคืน มันกินเก่งกินเร็วจนหมาตัวอื่นกินไม่ทัน รูปร่างในตอนนี้แข็งแรง สัดส่วนเฉียด ๆ อัลเซเชี่ยน ขนแบนเรียบติดหนังเป็นเงา เขี้ยวขาวยาวแหลมเวลาหมาตัวอื่นกำลังกิน เมื่อไอ้นินปรี่เข้าไป แฮ้เดียว ทุกตัวต้องหลบกันห่างจุกตูด หลีกห่างไปไกลเลยที่เดียว

   ไอ้นินไม่เคยก้มหัวให้ใคร ไม่ว่าจะเป็นพระหรือเณร จะมีแต่หลวงตากับเจ้าเปี้ยกเท่านั้น มันเป็นกฏของธรรมชาติที่ว่า “ คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ ” หมาเป็นอริกับไปรษณีย์เหมือนกับหญิงสาวเป็นศัตรูกับสิวที่บนใบหน้า ไอ้นินก็เช่นกัน ถึงมันจะเป็นหมา แต่ก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตกลับเณร ชื่อเณรจิ๋วนั้นเอง

   ไอ้นินมันเป็นหัวหน้าหมาบริวารของหลวงตา ถึงมันจะเป็นหมาก็ยังมีคนหมั่นใส้มัน นานวันจึงกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันกับเณรจิ๋ว ความจริงเณรจิ๋วก็มิใช่เด็กแล้ว อายุอานามก็ปาเข้า ๓๐ กว่า ๆ เคยบวชที่วัดนี้มาก่อน แต่เป็นคนที่สังคมไม่ปราถนา ชอบเมาแล้วโวยวายด่าหัวหมาด่าแม่เจ๊ก จนชาวบ้านระอาบางที่คนเขาหมั่นใส้มากๆเข้าก็ชัดเข้าให้คนละพลักคนปึกจนสปักสปอมก็ไม่เข็ด พอโดนหนักๆเข้าก็มาอาศัยนอนครวญคลางที่ศาลาหน้าวัด ท่านเจ้าอาวาสให้นึกสมเพชด้วยเคยเป็นศิษย์เก่าของวัดนี้มาก่อน ท่านเลยจับมาบวชเณรเพื่อจะให้เป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง และเพื่อให้มาหลบภัยจากบาทาของชาวบ้าน เพราะถ้าเมาแล้วปากเสีย ไม่มีใครคาดคิดว่าท่านเจ้าอาวาสตักสินใจผิด หรือถูกกันแน่ที่บวชสิงห์สั่งป่า

   เพราะตั้งแต่นั้นมา วัดนี้เลยมีเณรขี้จุ้ย โวยวาย ขี้ประจบสอพลอ จนพระหลายองค์บอกว่า เณรจิ๋วได้ปริญญามาจาก ออสเตรเลีย แต่ลับหลังเณรกลับเรียก เณรเลียแถมถูกขนานนามว่า เณรขี้เรื้อนเพราะตามร่างกายเณรจิ๋วเต็มไปด้วยกลากเกลื้อน ไม่เฉพาะตามตัวเท่านั้น ในหน้ายังขึ้นกระดำกระด่าง

   วันที่จะเกิดเรื่องถึงกับถึงกับต้องตายกันไปนั้น เณรจิ๋วฉันเสร็จก็เอาจีวรพาดไว้กับลูกกรงแล้วเข้าไปนวดเฟ้นให้กับหลวงตาเด็กวัดสองสามคนรวมทั้งเจ้าเปี้ยกก็อยู่ด้วย และกำลังเล่นอยู่กับไอ้นินซึ่งตอนนั้นมันยังเป็นลูกหมาน่ารัก ซนชอบกัดของเล่นตามประสาลูกหมา วันนี้มีลมแรงได้พัดเอาจีวรของเณรจิ๋วที่พาดไว้ที่ราวได้ตกลงมาที่พื้น ไอ้นินมันได้เห็นของเล่นชิ้นใหม่เลยเข้าไปขยำขยี่แถมขี้เยี่ยวรดให้อีก เณรจิ๋วออกมาเห็นเข้าพอดี ไอ้นินรู้ว่าภัยจะมาเข้าถึงตัวแล้วด้วยสัญขาตญาณหมาหลบแว่บไปซ้อนตัวอยู่ในกฏของหลวงตา เณรจิ๋วนั้นโกรธจนลมออกหูได้แต่อาฆาตไว้ในใจ

   ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ถ้าไอ้นินเผลอเป็นต้องโดนบาทาและไม้ของเณรจิ๋วบอบช้ำไปทั้งตัว บางครั้งก็ถึงกับขาแป๋ขาลากนอนร้องควาญครางไปหลายวัน หมานั้นก็มีหัวใจ เกิดจากวิญญาณที่พลาดพลั้ง ทำบุญน้อยหนีกรรมจากอดีตชาติไม่พ้น จึงต้องมารับกรรมเกิดเป็นสนัขเดียรัจฉาน เพื่อชดใช้หนี้กรรมเก่าที่ได้ก่อเอาไว้...แต่ก็ยังมาเจอกับ..คู้แค้นเจ้ากรรมนายเวรเก่าก่อนกันมาอีก..ไอ้นินจึงต้องรับบทหนักไปตามระเบียบ คู่กรรมของไอ้นินนั้นก็คือเณรจิ๋วนั้นเอง..ที่คอยจ้องหาโอกาสทุบตีให้ต้องบาดเจ็บตัวอยู่บ่อย.ๆ

   เณรจิ๋วก็เช่นกัน เผลอเมื่อไหร่เป็นโดนไอ้นินเป็นงับน่องเอา ในตอนแรกกัดต่ำ ๆ เพราะตัวมันยังเล็ก ต่อมามันโตและสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเอวไอ้นินได้โตเป็นหนุ่มเต็มที่แล้ว เณรจิ๋วก็อันธพาลเราดี ๆ นี้เองผ้าเหลืองพระ ผ้าเหลืองเณรไม่ได้ช่วยกล่อมเกลาจิตใจนิสัยคนเราขึ้นมาได้เลย ถ้าขาดเมตตาซะอย่าง “ ไม้แก่ยากที่จะดัด ” แกยังคงเมาหัวราน้ำ ไม่ได้เป็นประสัปรดสาระเลย เกิดมาเหมือนไม่ได้เต็มใจมาเกิด หลวงตาเองมาระยะหลัง ๆ เบื่อขี้หน้าเต็มที เพราะเณรจิ๋วนั้น ไม่มีความเกรงใจอีกทั้งไม่มีสัมมาคาระวะตามแบบฉบับคนเกเร

   ไอ้นินเองก็เบาหยอกเสียเมื่อไหร่ หมาก็หมาเถอะ....หลวงตาบอกว่า คงเป็นคู่กรรมคู่ผูกพยาบาทจองเวรกันมาตั้งแต่อดีตชาติ โทสะ โมหะ ใครลองได้เป็นสมบัติย่อมไม่ได้ให้ผลดีแน่นอน ในที่สุดตอนเข้าของวันนั้น สุดแค้น สุดพยาบาท ระหว่างคนกับหมาก็กิดขึ้น เลือดของคู่อาฆาตเหม็นคลุ้งชวนคลื่นเหียน คลื่นใส้ แยกไม่ออกว่าอันไหนเลือดหมาหรือว่าเลือดคนคู่กัดที่คุกรุ่นเป็นไฟสุมขอนมาตั้งแต่ไอ้นินมันยังตัวกระเปี้ยก จนกระทั้งมันโตพอที่จะกระโจนงับคอหอยของเณรจิ๋วได้แล้ว

   วันนี้เณรจิ๋วกลับจากบิณฑบาต เดินกลับเข้ามาทางหลังประตูวัด วันนี้ไอ้นินดันไปนอนหลับขวางทางจอมอันธพาลเข้า ทำให้เณรจิ๋วอารมณ์เสียทันทีที่เห็นไอ้นิน แต่ก็เสียตั้งแต่ก่อนเข้าวัดมาก่อนแล้วเพราะแกเตะอะไรต่อมิอะไรที่ขวางหน้าขวางตามาตลอดทาง เมื่อสายตามาพบไอ้นินคู่ปรับเข้าเท่านั้น แทนที่จะด่าตวาดไล่เณรจิ๋วกลับวางบาตรย่องไปหยิบมีดถางหญ้ากุฏหลวงตาต่อหน้าเจ้าเปี้ยกเจ้าอ้ำเจ้าอ้นเด็กวัดที่มองเห็น ว่าเณรจิ๋วได้มีดแล้วย่องกริบไปยังคู่อาฆาต

   แล้วอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะเณรห่มผ้าเหลือถือศิล ๑๐ จะมีจิตใจโหดเหี้ยมฟันหมาขณะที่มันหลับ ทุกคนได้ยินเสียงเณรจิ๋วคำรามว่า

  “ ตายเสียเถอะมึง ”

   สิ้นเสียงมีดของหลวงพ่อหวดลงหมายลำคอของไอ้นิน ความคมของมีดที่เพิ่งลับมาใหม่ ๆ ใกล้ถึง ไอ้นินคงรู้ด้วยสัญชาตญาณมันขยับตัวไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่พ้นคมมัดที่พาดลงบนโคนขา มันร้องเอ๋ง ๆๆลั้นวัด เลือดโทรมทั้งขาหน้า เณรจิ๋วหัวใจเพชฌฆาต ง้างมีดจะฟันซ้ำ ช่วงของความเป็นความตายนั้น ไอ้นินสวมวิญญาณนักสู้ รวมพลังกระโจนเข้างับลำคอของเณรจิ๋วอย่างรวดเร็วเสียจนดูไม่ทันหลบก็ไม่พ้นเขี้ยวขาวยาวของมันฝังจมมิดหายเข้าไปในลำคอ

   เณรจิ๋วตาเหลือกค้างมีเสียงครอก ๆ เลือดจากเส้นเลือดใหญ่ทะลักออกมาราวน้ำพุ ราดลงมารดผ้าเหลือง หยดลงพื้นนองอย่างน่ากลัว และไม่มีทางว่าเลือดจะหยุดเมื่อไอ้นินยังงับไม่ยอมปล่อย

   เจ้าเปี้ยกเจ้าอ้นเจ้าอ้ำสามเด็กวัดตลึงพอได้สติก็ร้องให้คนมาช่วยกันลั่น แต่พระไปบิณฑบาตยังไม่กลับวัด ลำพังเด็กสามคนช่วยอะไรไม่ได้ หลวงตาก็ยังไม่กลับเช่นกัน เณรจิ๋วดิ้นเฮือกสุดท้าย ฟันไอ้นินอีกทีแล้วมีดก็หลุดมือ แต่หมายังคงงับคอเณรจิ๋วอยู่ ทั้งหมาทั้งคนนอนจมกองเลือด เณรนั้นแน่นิ่งไป หายใจครั้งหนึ่งเลือดก็ทะลักออกมาตรงที่เขี้ยวหมางับอยู่ เป็นฟองฟ่อด พระเริ่มทยอยกลับวัด องค์หนึ่งเปรยขึ้นเบา ๆ ว่า

   “ สิ้นเวรสิ้นกรรมกันที คนกับหมาคู่นี้ จองเวรจองกรรมกันมามากเหลือเกิน ”

   ศพของเณรจิ๋วตั้งอยู่บนศาลาส่วนไอ้นินหลวงตาเยียวยาอย่างสุดขีด เจ้าเปี้ยกลูกศิษย์นั่งร้องให้กระซิก ๆ เพราะเวทนามัน

   หลวงตาครับ เณรจิ๋วก็ตายไปแล้ว ไอ้นินก็คงไม่รอด หลวงตาคิดว่าเขาจะเลิกจองเวรจองกรรมกันไหมครับ”

   เจ้าเปี้ยกถามไปสอื้นไป หลวงตาตอบพึมพำก่อนจะลุกไปจัดการศพเณรจิ๋วที่ศาลาว่า

   “ เลิกนะเลิกได้ แต่ต้องใช้เวลากันอีกนาน ”

   ท่านเอื้อมมือมาลูบแผงคอของไอ้นิน เลือดมันหยุดไหลพร้อม ๆ กับตาที่ลืมโพรง และลมหายใจที่ขาดหายไปด้วย ร่างของไอ้นินจะแตกดับ แต่จิตวิญญาณของมัน ใครจะรู้ได้ว่า มันรักเจ้าเปี้ยกกับหลวงตา แล้วในชาติหน้าไอ้นินกับเณรจิ๋วจะมาเกิดเป็นอะไรต่อไปเพื่อใช้ชดเวรกรรมที่ยังไม่จบไม่สิ้น......

 

 

 

 

 
 

 


 ธรรมะมีหมอดู
 

 
ชมรมบ้านโหรเทวเทพ    


หมอดูแม่นๆ